วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554


<embed src=http://i245.photobucket.com/albums/gg78/looma001/aloomaclock6.swf quality="high"  width="150" height="140" wmode="transparent"></embed><br>
               <a href="http://www.zalim-code.com/clock.html" target="_blank">Free Clock   </a>

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

กลุ่มดาวจักรราศี

กลุ่มดาวจักรราศี





จักรราศี   (Zodiac - มาจากภาษากรีก ζῳδιακός หมายถึง "สัตว์") เป็นแถบสมมติบนท้องฟ้าที่มีขอบเขตประมาณ 8 องศา ค่อนไปทางเหนือและใต้ของแนวเส้นทางที่ดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนผ่าน (สุริยวิถี) ซึ่งครอบคลุมแนวเส้นทางปรากฏของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาลอีก 7 ดวง คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ส่วนดาวพลูโตนั้น ความเอียงของวงโคจรมีค่ามาก ดาวพลูโตจึงมีเส้นทางปรากฏห่างจากสุริยวิถี




ตารางจักรราศีและช่วงวันที่ครอบคลุม

ตามจักรราศี และช่วงวันที่ครอบคลุม ซึ่งมีทั้งหมด 12 ราศี


ราศีสัญลักษณ์วันที่ครอบคลุมของราศี (โดยประมาณ)ธาตุระดับธาตุ[ต้องการอ้างอิง]ดาวประจำราศี
แบบสายนะ (Tropical Zodiac)แบบนิรายนะ (Sidereal Zodiac)
ราศีเมษแกะ21 มีนาคม - 19 เมษายน13 เมษายน - 13 พฤษภาคมไฟจรราศี (แม่ธาตุ)ดาวอังคาร
ราศีพฤษภวัว20 เมษายน - 20 พฤษภาคม14 พฤษภาคม - 13 มิถุนายนดินสถิรราศี (กลางธาตุ)ดาวศุกร์
ราศีเมถุนคนคู่21 พฤษภาคม - 20 มิถุนายน14 มิถุนายน - 14 กรกฎาคมลมอุภัยราศี (ปลายธาตุ)ดาวพุธ
ราศีกรกฏปู21 มิถุนายน - 22 กรกฎาคม15 กรกฎาคม - 16 สิงหาคมน้ำจรราศีดวงจันทร์
ราศีสิงห์สิงโต23 กรกฎาคม - 22 สิงหาคม17 สิงหาคม - 16 กันยายนไฟสถิรราศีดวงอาทิตย์
ราศีกันย์หญิงสาว23 สิงหาคม - 22 กันยายน17 กันยายน - 16 ตุลาคมดินอุภัยราศีดาวพุธ
ราศีตุลย์คันชั่ง23 กันยายน - 22 ตุลาคม17 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายนลมจรราศีดาวศุกร์
ราศีพิจิกแมงป่อง23 ตุลาคม - 21 พฤศจิกายน16 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคมน้ำสถิรราศีดาวอังคารดาวพลูโต
ราศีธนูคนยิงธนู22 พฤศจิกายน - 21 ธันวาคม16 ธันวาคม - 14 มกราคมไฟอุภัยราศีดาวพฤหัสบดี
ราศีมกรแพะทะเล22 ธันวาคม - 19 มกราคม15 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์ดินจรราศีดาวเสาร์
ราศีกุมภ์คนแบกหม้อน้ำ20 มกราคม - 18 กุมภาพันธ์13 กุมภาพันธ์ - 13 มีนาคมลมสถิรราศีดาวเสาร์ดาวมฤตยู
ราศีมีนปลา19 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม14 มีนาคม - 12 เมษายนน้ำอุภัยราศีดาวพฤหัสบดีดาวเนปจูน






เมื่อเรายืนอยู่ในที่โล่งแจ้ง เช่น ทุ่งโล่งหรือชายทะเล และสังเกตท้องฟ้า เราจะเห็นว่าท้องฟ้ารูปครึ่งทรงกลมครอบเราอยู่ เรียกว่า “ทรงกลมท้องฟ้า (Celestial Sphere))” โดยเราจะอยู่ที่จุดศูนย์กลางเสนอพื้นดินที่เรายืนอยู่ เป็นระนาบขนาดใหญ่ ที่เราเรียกว่า “ระนาบขอบฟ้า (Horizontal Plane)” เส้นขอบฟ้า (Horizontal line) จะเป็นเส้นรอบวงที่ล้อมรอบผู้สังเกตที่อยู่ไกลลิบ มองเห็นเป็นรอยต่อระหว่างทรงกลมท้องฟ้ากับพื้นดิน นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งสำคัญบนทรงกลมท้องฟ้า ที่เราควรรู้จัก คือ “จุดเหนือศีรษะ (Zenith)” 
Zodiacสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ก็คือ การรู้จักทิศบนโลก เราใช้หลักเกณฑ์อย่างใดในการกำหนดทิศบนโลก








พร้อมให้เหตุผลประกอบการที่โลกหมุนรอบตัวเองไปทางทิศเดียวกับการโคจรรอบดวงอาทิตย์นักวิทยาศาสตร์ จึงได้กำหนดให้ทิศที่โลกหมุนไปเป็นทิศตะวันออก ส่วนทิศที่อยู่ตรงข้ามกับการหมุนของโลกเป็นทิศตะวันตก ดังนั้นขณะที่โลกหมุนรอบตัวเองทิศจึงติดไปกับโลกตลอดเวลา ดังภาพ แสดงทิศเมื่อเทียบกับผู้สังเกต ณ ตำแหน่งต่างๆ
เมื่อโลกหมุนพาสังเกตไปอยู่ ณ ตำแหน่ง 1 และ 3 ผู้สังเกตจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ทิศเดียวกันหรือไม่ เพราะเหตุใด เมื่อผู้สังเกตมาอยู่ ณ ตำแหน่งที่ 1 2 3 และ 4 จะเป็นเวลาประมาณเท่าใด เมื่อเรามีความเข้าใจในเรื่องทรงกลมท้องฟ้าและระนาบขอบฟ้า รวมทั้งหลักเกณฑ์การกำหนดทิศบนโลกแล้ว ให้เรากำหนด เหนือ-ใต้ ตะวันออก-ตะวันตก ณ ตำแหน่งที่เรายืนอยู่ จากนี้ ให้เราสังเกตการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้า เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่าง ๆ เป็นต้น


การสังเกตดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า 

ในสมัยโบราณนั้น มลภาวะทางแสงจะน้อยกว่าปัจจุบัน จะเห็นดาวฤกษ์ดาดดื่นเต็มท้องฟ้าไปหมด และสังเกตเห็นการอยู่รวมกันของกลุ่มดาวฤกษ์เป็นกลุ่มเป็นพวก ที่เราเรียกกันว่า กลุ่มดาว (Constellation ซึ่งมาจากคำว่า Con แปล ว่าอยู่ด้วยกัน กับคำว่า Stella แปลว่า ดาวฤกษ์) ทำให้คนในสมัยโบราณได้จินตนาการกลุ่มดาวบนท้องฟ้า เป็นรูปคน รูปสัตว์ต่างๆ กัน โดยเมื่อ 2,000 ปีก่อน พโทเลมี นักปราชญ์ชาวกรีกได้แบ่ง กลุ่มดาวเอาไว้จำนวน 48 กลุ่ม โดยไม่ได้มีกลุ่มดาวทางซีกฟ้าใต้ เนื่องจากไม่ได้เห็นบนท้องฟ้า จนกระทั้งปี ค.ศ. 1930 องค์การดาราศาสตร์สากล ( Internation Astronomical Union หรือ IAU) ได้ตกลงแบ่งเขตกลุ่มดาวให้ชัดเจนขึ้น โดยกำหนดใช้พิกัด R.A และ Dec กำหนดกลุ่มดาวทั่วท้องฟ้า และแบ่งกลุ่มดาวฤกษ์ออกเป็น 88 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มกำหนดไว้ในรูปของตัวบุคคล เครื่องมือสัตว์ต่าง ๆ ในเทพนิยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพนิยายกรีก ซึ่งเป็นนิยายปรัมปราที่มีการเล่าขานสืบต่อมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล และยังเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน การกำหนดเช่นนี้ทำให้การจดจำกลุ่มดาวต่าง ๆ ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้การดูดาวมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน
สำหรับประเทศไทยซึ่งมีตำแหน่งบนโลกคือ ละติจูดประมาณ 15 องศาเหนือ ณ ตำแหน่งนี้คนไทย จะเห็นกลุ่มดาวได้ราว 74 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ระหว่าง Dec. +90 องศาเหนือถึง Dec.-75 องศาใต้ ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เราจะแบ่งกลุ่มดาวออกเป็นส่วนๆ คือ 


1) กลุ่มดาวซีกฟ้าเหนือ โดยการใช้แนวเส้นศูนย์สูตรฟ้า (Dec 0 องศา) เป็นตัวแบ่ง นับไปทางขั้วฟ้าเหนือ (Dec +90) ซึ่งแนวเส้นศูนย์สูตรฟ้านี้จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของผู้สังเกตเป็นหลัก ถ้าผู้สังเกตอยู่ซีกฟ้าเหนือ เส้นศูนย์สูตรฟ้าของเฉียงค่อนไปทางใต้ ห่างจากจุดกลางศีรษะเราเท่ากับตำแหน่งละติจูดที่ผู้สังเกตอยู่ เช่นประเทศไทย อยู่ละติจูด 13.5 องศาโดยเฉลี่ย(ตำแหน่งของกรุงเทพฯ) เส้นศูนย์สูตรฟ้าจะเองค่อนไปทางใต้ 13.5 องศาด้วยเช่นกัน 










2) กลุ่มดาวซีกฟ้าใต้ โดยการใช้แนวเส้นศูนย์สูตรฟ้า (Dec 0 องศา) เป็นตัวแบ่ง นับไปทางขั้วฟ้าใต้ (Dec -90)






3) กลุ่มดาวจักรราศี คือกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่าน เราเรียกเส้นนี้ว่า สุริยวิถี (Ecliptic) เคลื่อนที่ผ่านกลุ่มดาวที่แน่นอน 12 กลุ่มในรอบ 1 ปี การสังเกตกลุ่มดาวจักรราศีนี้จะอยู่ใกล้เคียงกับแนวเส้นศูนย์สูตรฟ้า โดยมีตำแหน่งห่างมากที่สุด 23.5 องศา เท่ากับแกนเอียงของโลก ปัจจุบันตำแหน่งสูงสุดทางซีกฟ้าเหนืออยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) และตำแหน่งต่ำสุดทางซีกฟ้าใต้อยู่บริเวณกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) การไล่ตำแหน่งกลุ่มดาวจักรราศี จะไล่จากทิศตะวันตกไปตะวันออกบนท้องฟ้า

4) กลุ่มดาวแนวทางช้างเผือก เป็นการคาบเกี่ยวระหว่างข้อ 1 ถึง 3 เป็นแนวกลุ่มดาวพิเศษที่แยกมาเพื่อง่ายต่อการจดจำอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากแนวทางช้างเผือกนั้นจะมีแนวผ่านกลุ่มดาวที่แน่นอนบนท้องฟ้า ซึ่งตำแหน่งศูนย์กลางของทางช้างเผือกนั้นจะอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างกลุ่มดาว แมงป่อง (บริเวณหาง) กับกลุ่มดาวคนยิงธนู ใกล้กับแนวเส้นสุริยะวิถี (Ecliptic) ทำมุมระหว่างกัน 60 องศา โดยจะไล่ไปทางซีกฟ้าเหนือผ่านไปทางกลุ่มดาวนกอินทรีย์(Aquila) ลูกธนู(Sagitta) หงส์(Cygnus) เซเฟอุส(Cepheus) คาสสิโอเปีย(Cassiopeia) เปอร์เซอุส(Perseus) สารถี(Auriga) คนคู่(Gemini) ม้ายูนิคอน(Monoceros) สุนัขใหญ่(Canis Major) ท้ายเรือ(Pupis) ใบเรือ(Vela) กระดูกงูเรือ(Carina) บางเขนใต้(Crux) ม้าครึ่งคน(Centaurus) แท่นบูชา(Ara) และ แมงป่อง(Scorpius) ครบรอบ



กลุ่มดาวจักรราศี มีทั้งหมด 12 ราศี ได้แก่




1.กลุ่มดาวมังกร  (Capriconus)


กลุ่มดาวราศีมังกร กลุ่มดาวมังกรอยู่ตรงข้ามกับกลุ่มดาวราศีปู กลุ่มดาวนี้ส่วนใหญ่อยู่เลยไปทาง ทิศใต้ของเส้น Ecliptic อยู่ระหว่างกลุ่มดาวคนถือหม้อนี้และกลุ่มดาวราศีธนู ดาวกลุ่มนี้ไม่มีดาวที่สว่างสุกใส พอที่จะสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ แต่ถ้ารวมกลุ่มดาวนี้ ทั้งกลุ่มเข้าด้วยกัน จะเห็นเป็นรูปสามเหลี่ยมฐานโค้งดาวกลุ่มนี้จะเห็นอยู่บนเส้น Meridian (เส้นที่ลากจากทิศเหนือผ่านกลางฟ้าไปยังทิศใต้) เมื่อเวลา 3 ทุ่ม ในวันที่ 20 กันยายน
กลุ่มดาวนี้นักดาราศาสตร์เขาจินตนาการ เห็นเป็นมังกรหรือแพะทะเล คือ มีส่วนหัวเป็นแพะ ส่วนหางเป็นปลา กลุ่มดาวนี้มีความสำคัญต่อนักดาราศาสตร์ และนักภูมิศาสตร์มากเหมือนกัน เพราะกลุ่มดาวราศีมังกร (Capriconus) เป็นกลุ่มดาวที่เราเอาชื่อมาเรียกแถบเส้นรุ้งที่ 23 องศาใต้ได้ชื่อเช่นนี้ เพราะฤดูร้อนของทางซีกโลกฝ่ายใต้ หรือ ฤดูหนาวของประเทศทางซีกโลก ฝ่ายเหนือ เกิดขึ้นเมื่องดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ปรากฏเข้ามาในกลุ่มดาวนี้

ตามนิยายของกรีกกล่าวว่า กลุ่มดาวมังกรนี้เป็นกลุ่มดาวที่แทนเทพเจ้าแพน(Pan) หรือ Bacchus ตามประวัติมีว่า วันหนึ่งขณะที่เทพเจ้าแพนกำลังร่วมรับประทาน อาหารอยู่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ร่วมกันกับเทพเจ้าองค์อื่น ๆ หลายองค์ ทันใดนั้น เทพเจ้าแพนมองเห็นอสูรร้ายไต้ฝุ่น (Typhoon) เมื่อไต้ฝุ่นมาใกล้ เทพเจ้าองค์ อื่นๆ ได้เหาะหนี หรือแปลงกายหนีไป เทพเจ้าแพนได้กระโดดลงไปในแม่น้ำไนล์ แปลงร่างกายท่อนล่างเป็นปลา ท่อนบนที่อยู่เหนือผิวน้ำเป็นแพะ เพื่อจะได้ สังเกตดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ จอมเทพพฤหัสดี ได้นำเอารูปปลอมกายของ เทพเจ้าแพนไปไว้บนท้องฟ้า ฉะนั้นชาวกรีกจึงเรียกดาวกลุ่มนี้ว่ากลุ่มดาวแพน

พวกนักดารา ศาสตร์อียิปต์โบราณ เรียกกลุ่มดาวมังกรนี้ว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ (God of Water ) เพราะเขาเชื่อว่า กลุ่มดาวนี้สามารถบันดาลให้เกิดน้ำท่วม ลุ่มแม่น้ำไนล์ได้ ดาวเคราะห์ดวงที่ 8 Neptune ซึ่งพบโดยการคำนวณของ J.C Adam ชาวอังกฤษและ Leverrier ชาวฝรั่งเศส ทั้งสองเป็นนักดาราศาสตร์หนุ่ม เป็นผู้คำนวณได้ดาวดวงนี้พบในปี ค.ศ. 1846 ในกลุ่มดาวราศีมังกรนี้ 











2.กลุ่มดาวคนถือหม้อน้ำ   (Aquarius)


กลุ่มดาวราศีกุมภ์ คือ กลุ่มดาวคนถือหม้อน้ำ เป็นกลุ่มดาวใหญ่แต่ไม่สะดุดตา อยู่ทางทิศใต้ของกลุ่มดาวม้า ในระหว่างปี พ.ศ. 2507 และ พ.ศ. 2508 การจะหากลุ่มดาวคนถือหม้อน้ำหาได้ง่ายมากเพราะใน ระหว่าง 2 ปีนี้ ดาวเสาร์ปรากฏโคจรมาอยู่ในกลุ่มดาวนี้กลุ่มดาวนี้ เป็นกลุ่มดาวที่ มีประวัติเก่าแก่กลุ่มหนึ่ง คนโบราณเขาเห็นเป็นรูปคนกำลังเทน้ำออกจากหม้อ ตามนิยายดาวของกรีกกล่าวว่า เทพเจ้า Zeus กำลังเทน้ำ ซึ่งจะตกเป็นฝนมายัง โลก ฉะนั้นกลุ่มดาวกลุ่มนี้จึงเป็นเครื่องหมายแห่งฤดูฝน ส่วนชาวอียิปต์โบราณ กล่าวว่า อุทกภัยแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ เกิดจากคนเทหม้อน้ำในกลุ่มดาวนี้ เทน้ำลงไป บนแม่น้ำไนล์ 









3.กลุ่มดาวปลา  (Pisces)

กลุ่มดาวปลา เป็นกลุ่มที่ไม่สะดุดตา หาได้ยาก แต่นักดาราศาสตร์อ้างถึงอยู่บ่อย ๆ เพราะในวันที่ 21 มีนาคม ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ปรากฏเข้ามาอยู่ในราศีนี้ ทางโหราศาสตร์สากล เขาถือว่าในวันที่ 21 มีนาคม ดวงอาทิตย์เริ่มยกเข้าสู่ราศีเมษ แต่ตามความจริง แล้วไม่ใช่ ในวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่เส้น Ecliptic ตัดกับเส้นศูนย์สูตร ท้องฟ้านั้น ดวงอาทิตย์เริ่มโคจรปรากฏเข้ามาอยู่ในบริเวณกลุ่มดาวซึ่งเป็น หัวปลาคู่นี้ แล้วค่อย ๆ ปรากฏเคลื่อนไปทางทิศตะวันออก ในวันที่ 21 มีนาคม เป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ เป็นวันที่กลางวันและกลางคืนเท่ากัน จึงเป็นวันที่ น่าสนใจและควรจดจำ

ตามนิยายดาวของกรีกกล่าวว่า วันหนึ่ง วินัส เทพธิดาแห่งความสวยงาม และบุตรของเธอคือ กามเทพ (Cupid) กำลังเดินเล่นอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีส (Euphrates) ทันใดนั้น มองเห็นไต้ฝุ่นยักษ์ผู้ดุร้ายกำลังเคลื่อนใกล้มา ทั้งวินัส และกามเทพ จึงรีบกระโดดลงไปนี้แม่น้ำ เพื่อหนียักษ์ร้ายนี้ โดยแปลงตัวเป็นปลา 2 ตัว เพื่อเป็นเครื่องหมายและระลึกถึงความโชคดีทีหนี้ภัยร้ายได้ Minerva จึงได้ นำปลา 2 ตัวนี้ไปไว้บนท้องฟ้า
กลุ่มดาวนี้ แทนปลา 2 ตัว ผูกติดด้วยริบบิ้นที่หาง ชาวบาบิโล ชาวซีเรีย ชาวเปอร์เซีย ชาวตุรกี และชาวกรีก เห็นรูปดาวกลุ่มนี้ตรงกันหมดคือเห็นเป็นปลา 2 ตัว ผูกหางไว้ด้วยแถบริบบิ้นยาว และสัญลักษณ์แหนดาวกลุ่มนี้ ต่างก็ใช้ปลา เหมือนกัน

นักโหราศาสตร์สากลถือว่ากลุ่มดาวปลา เป็นกลุ่มดาวแห่งความโชคร้าย ชาวอียิปต์สมัยโบราณถือว่าภาพปลาเป็นภาพที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง นักโหราศาสตร์สากลและคนไทยมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ คนไทยทั่วไปถือว่าปลาเป็นสัญลักษณ์แห่งการนำโชคเช่นตามร้านค้า รถเมล์ รถแท็กซี่ต่างก็มีรูปปลาตะเพียนแขวนไว้ เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น รายได้ดี ส่วนอียิปต์และนักโหราศาสตร์สากลถือว่าปลาเป็น
สัญญลักษณ์แห่งความอับโชค












4.กลุ่มดาวแกะ  (Aries or Ram)

ราศีเมษ (Aries จากภาษาลาติน แปลว่า แกะตัวผู้) เป็นกลุ่มดาวจักรราศีแรก ตามตำราของโหราศาสตร์ตะวันตก อยู่ระหว่างกลุ่มดาวราศีมีนและราศีพฤษภ มีสัญลักษณ์เป็น แกะตัวผู้ ช่วงวันที่ครอบคลุมของราศีเมษนั้น ในแบบสายนะ จะครอบคลุมระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 19 เมษายนส่วนแบบนิรายนะ จะครอบคลุมระหว่างวันที่ 13 เมษายน ถึง 13 พฤษภาคม

กลุ่มดาว ราศีเมษหรือกลุ่มดาวแกะ ชาวอาหรับเรียกว่า “ เจ้าชายแห่งสิบสองราศี” หรือ “ เจ้าชายแห่งท้องฟ้า” หรือ “ ผู้นำของกลุ่มดาว 12 ราศี”ตามตำนานนิยายดาวของกรีกกล่าวแกะตัวนี้ คือ เทพเจ้าซูส (Zeus อ่านว่า ซูสหรือเซอุส ชื่อนี้ทางโรมันเรียก Jupiter ) ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่มีอำนาจอันยิ่งใหญ่ ในสมัยนั้น ได้แปลงตัวเป็นแกะ เพื่อหนียักษ์ร้ายที่ติดตามนิยายดาวที่มีชื่อเสียงและกล่าวถึงกันมากที่ เกี่ยวกับกลุ่มดาวนี้ เล่าว่า กลุ่มดาวแกะเป็นสัญลักษณ์แทนแกะ ซึ่ง ฟรีซัส (Pheixus ) และ เฮเล (Helle) ลูกของกษัตริย์แห่งนครเทสสาลี (Thessaly) ซึ่งถูกแม่เลี้ยง เลี้ยงดูอย่างทารุณโหดร้าย พระพุธ (Mercury) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสื่อสาร และความเร็ว มีความสงสารในเด็ก 2 คนนี้มาก จึงได้ส่งแกะตัวผู้ ซึ่งมีขนเป็น ทองคำอันอ่อนนุ่นมาให้เด็กทั้ง 2 คนขี้ เพื่อหนีแม่เลี้ยงผู้ชั่วร้าย เด็กทั้งสอง ได้ขี่แกะไปบนอากาศ แต่ Helle โชคร้ายมาก ตกจากหลังแกะตรงช่องแคบ ที่แบ่งยุโรปกับทวีปอาเซีย เพื่อเป็นสัญลักษณ์และอนุสรณ์ในเรื่องนี้ ช่องแคบนี้ จึงได้ชื่อว่า “Helles Pont” ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของช่องแคบ ดาร์ดาเนลส ์ (Dar-danelles) ฟรีซัสได้ขี่แกะต่อไปโดยปลอดภัย จนถึงเมือง Colchis ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลดำ ฟรีซัสจึงฆ่าแกะบูชายัญ และได้เอา ขนแกะ ทองคำให้กษัตริย์ผู้ครองนครนั้น จอมเทพพฤหัสบดีได้นำแกะผู้ซื่อสัตย์นี้ ขึ้นไปไว้ บนกลางท้องฟ้า ระหว่างดาวฤกษ์ต่าง ๆ เป็นกลุ่มดาวหนึ่งในกลุ่มดาว 12 ราศี 








5.กลุ่มดาววัว  (Taurus)

กลุ่มดาวในราศีที่ 2 หรือ กลุ่มดาวราศีพฤษภ คือ กลุ่มดาววัวตัวผู้ คนไทย โดยทั่วไปเห็นกลุ่มดาวนี้เป็น กลุ่มดาวธง สุนทรภู่เขียนชมดาวไว้ตอนหนึ่งวัน “ ดูโน่นแน่ะแม่อรุณรัศมี ตรงมือชี้ ดาวเต่า นั่นดาวไถ ดาวธงตรงหน้าอาชาไนย ดาวลูกไก่เคียงคู่เป็นหมู่กัน” ดาวธงของสุนทรภู่ คือ กลุ่มดาวหน้าวัวของกลุ่มดาว หน้าวัวนั่นเอง กลุ่มดาววัวเป็นกลุ่มดาวที่สะดุดตาเห็นครั้งเดียวจำได้ตลอดไป วิธีการสังเกตดูกลุ่มดาวนี้ง่าย ๆ คือ ดูจากกลุ่มดาวลูกไก่ ซึ่งเป็นกระจุกดาวที่ สวยงานที่สุดในท้องฟ้า กลุ่มดาวลูกไก่อยู่บนหนอกข้างขวาของวัว ฉะนั้นพอเห็น กลุ่มดาวลูกไก่ มองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นดาวธงรูปสามเหลี่ยม คล้ายอักษร ภาษาอังกฤษ ตัว V มีดาวสีแดงสดใสชื่อ แอนดีบาแรน (Aldebarm) อยู่ตรง ยอดธงเป็นที่สังเกต

กลุ่มดาววัวจะเห็นอยู่กลางท้องฟ้าตรงศีรษะ เมื่อเวลา 3 ทุ่ม ในวันที่ 15 มกราคมของทุกปี
ตามนิยามดาวของกรีก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับกลุ่มดาววัวดังนี้ จอมเทพจูปิเตอร์ ได้หลงรักเทพธิดายูโรปา (Europa) จูปิเตอร์หาทางจะเข้าอยู่ใกล้ๆพระนางยูโรปา โดยปลอมตัวเป็นวัวตัวผู้หนุ่มปะปนเข้าไปในฝูงวันของบิดาของยูโรปา วันหนึ่ง ขณะที่ยูโรปากำลังเก็บดอกไม้อยู่ในสวน วัวจูปีเตอร์ทำให้หิมะมาปกคลุมตัว จนเต็ม และเข้าไปใกล้ ๆ พระนางยูโรปาเหลือบมาเห็นเข้า ก็เกิดความสนใจ จึงเอามือปัดหิมะออกและได้ขึ้นไปนั่งบนหลังวันนั้น วัวจูปีเตอร์ได้ทีก็ออกวิ่งไป ทันที โดยมียูโรปาอยู่บนหลัง พาเหาะผ่านทะเมดิเตอร์เรเนียนไปยังผืนแผ่นดิน ใหญ่ ฉะนั้นผืนแผ่นดินแห่งนี้ ในปัจจุบันจึงเรียกว่าทวีปยุโรป จูปีเตอร์ได้แสดง ตัวกับพระนางยูโรปา ต่อมาก็ได้แต่งงานกับพระนางยูโรปาสมความตั้งใจ








6.กลุ่มดาวคนคู่  (Gemini)

กลุ่มดาวในราศีที่ 3 หรือกลุ่มดาวราศีมิถุน คือ กลุ่มดาวคนคู่ ดาวกลุ่มนี้มีดาวดวง สว่างสุกใส 2 ดวง เป็นสังเกต คือ ดาว Pollux และ Castor ดาว 2 ดวงนี้ เป็นจุด สะดุดตาหาได้ง่าย อยู่ใกล้ ๆ กลุ่มดาววัว เหนือกลุ่มดาวนายพรานใหญ่ขึ้นมาทาง ทิศตะวันออกของกลุ่มดาวสารถี กลุ่มดาวคนคู่จะเห็นอยู่กลางท้องฟ้าเมื่อเวลา 3 ทุ่มในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ของทุกปีดาวฤกษ์พอลลักซ์และแคสเตอร์นี้ คนโบราณโดยทั่วไปถือว่าเป็นดาวคู่แฝด คือชาวอาหรับเห็นเป็นนกยูง 2 ตัว ชาวอียิปต์เห็นเป็นต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ชาวฮินดูเห็นเป็นเทพเจ้า 2 องค์

ตามนิยายดาวของกรีก Castor และ Pollux เป็นบุตรชายของเทพบิดาพฤหัสดี (จูปีเตอร์) และพระเลดา (Leda) Castor เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับม้า Pollux เป็นนักมวยและนายทหารที่มีชื่อเสียง ชาวโรมันถือว่าดาวฤกษ์ Castor และ Pollux เป็รสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ชาวเรือถือว่าเป็นเทพเจ้าที่ช่วยให้พ้นภัยทะเล แต่นักดาราศาสตร์เห็นดาวฤกษ์ Castor เป็นคู่ ( 2 ดวง ) ที่สวยงามที่สุดและ ใหญ่ที่สุด ดาวฤกษ์ Pollux เป็นดาวคู่สาม (มี 3 ดวงหมุนรอบซึ่งกันและกัน ) วันที่ 180-20 ตุลาคม ของทุกปี จะมีฝูงอุกกาบาตวิ่งมาชนโลกเป็นกลุ่ม ๆ คือเราจะเห็นดาวตกหรือผีพุ่งไต้ตกลงมาเป็นกลุ่ม ๆ จากปลายเท้าของกลุ่มดาว คนคู่นี้ ในวันที่ 10 -12 ธันวาคม กลุ่มดาวตกจะสังเกตได้มาก มาจากทางส่วนหัว ของกลุ่มดาวคนคู่นี้ ดาวฤกษ์ Castor และ Pollux เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้โลกมาก อยู่ห่-างจากโลกเพียง 47 และ 31 ปีแสงตามลำดับ









7.กลุ่มดาวปู  (Cancer)

ดาวฤกษ์พอลลักซ์และแคสเตอร์นี้ คนโบราณโดยทั่วไปถือว่าเป็นดาวคู่แฝด คือชาวอาหรับเห็นเป็นนกยูง 2 ตัว ชาวอียิปต์เห็นเป็นต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ชาวฮินดูเห็นเป็นเทพเจ้า 2 องค์ กลุ่มดาวในราศีที่ 4 หรือ กลุ่มดาวราศีกรกฏ คือ กลุ่มดาวปู ดาวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มดาว ที่ไม่สะดุดตาและหาได้ยากที่สุดในกลุ่มดาว 12 ราศี ดาวกลุ่มนี้อยู่ระหว่าง กลุ่มดาวคนคู่และกลุ่มดาวสิงโต วิธีหากลุ่มดาวกลุ่มนี้ ก็ต้องหากลุ่มดาวคนคู่และ กลุ่มดาวสิงโตให้ได้ ระหว่าง กลุ่มดาวทั้งสองมีดาวฤกษ์ สว่างจาง ๆ อยู่ 8 ดวง ที่ประกอบกันเป็นตัวปูปูเป็นสัตว์ที่เคลื่อนที่ไปโดยลำตัวไม่ตั้งตรงหรือ เห็นปรากฏถอยหน้าถอยหลัง ดวงอาทิตย์เมื่อเคลื่อนที่เข้ามาในกลุ่มดาวปู จะปรากฏเหมือนเคลื่อนที่ถอยหลัง ชื่อ ทรอปิค ออฟ แคนเซอร์ (Tropic of Cancer ) ได้ชื่อมาจากการเคลื่อนที่ ปรากฏของดวงอาทิตย์ว่าคล้ายปู เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ปรากฏเข้าสู่กลุ่มดาวปู ราศีกรกฏ ( 22 มิถุนายน ) ระยะนี้เป็นฤดูร้อนทางซีกโลกเหนือ คนในประเทศ อบอุ่น จะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะเมื่อเวลาเที่ยงวัน วันที่ 22 มิถุนายน เป็นวัน ที่มีเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนมากที่สุด

ตามนิยามดาวของกรีก กล่าวว่า ขณะที่เฮอร์คิวลิส ( Hercules ) กำลังทำ สงครามครั้งใหญ่อยู่กับยักษ์ร้าย จูโน เทพธิดาแห่งความอิจฉา เกิดอิจฉาใน ความกล้าหาญของเฮอร์คิวลิส แต่เฮอร์คิวลิสสามารถขับปูยักษ์ไปได้โดยง่าย เทพธิดาจูโนจึงให้รางวัลปูโดยจับปูบูชายัญเสียตามธรรมเนียมของคนใจร้าย จอมเทพจูปีเตอร์ได้นำเอาปูนี้ไปไว้ระหว่างกลุ่มดาว เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงว่า การไปประกอบกรรมชั่วให้คนอื่นไม่ใช่จะได้รับผลดีตอบ ผลชั่วจะตอบสนองตน เองในที่สุด









8.กลุ่มดาวสิงโต  (Leo)


กลุ่มดาวในราศีที่ 5 หรือ กลุ่มดาวราศีสิงห์ คือ กลุ่มดาว สิงห์โตดาวกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มดาวที่คนรู้จักดีที่สุดและสะดุดตาที่สุดอีกกลุ่มหนึ่ง กลุ่มดาวราศีสิงห์ เป็นกลุ่มดาวที่เก่าแก่ที่สุดตามที่ได้มีการบันทึกมา ดาวกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับ ดวงอาทิตย์อย่างใกล้ชิด นับแต่แรกเกิดระบบสุริยะ ฉะนั้นทางโหราศาสตร์ เขาจึงกำหนดให้ดวงอาทิตย์เป็นเจ้าของราศีสิงห์นี้ กลุ่มดาวสิงห์โต เป็นกลุ่มดาวที่บอกฤดูกาลได้เมื่อจะเริ่มหน้าร้อนของฝรั่ง คือ ปลายเดือนมิถุนายน กลุ่มดาวสิงโตจะอย่างท้องฟ้าตั้งแต่เริ่มมืด กลุ่มดาวสิงโต จะอยู่กลางท้องฟ้าตรงศีรษะเมื่อเวลา 3 ทุ่ม (21.00 น.) ในวันที่ 10 พฤษภาคม ของทุกปี
ชาวอียิปต์โบราณบูชาดาวกลุ่มนี้เพราะอุทกภัยจากแม่น้ำไนล์ เกิดขึ้นเมื่อ ดวงอาทิตย์เข้ามาอยู่ในกลุ่มดาวราศีนี้ บางท่านจึงสันนิษฐานว่า ตัวสฟิงส์ (Sphing) ของอียิปต์ส่วนหัวคื่อหญิงพรหมจารีย์ (ราศีกันย์ )ส่วนตัวคือสิงห์โต (ราศีสิงห์)

ชาวเปอร์เชียในสมัยโบราณ เรียกดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในราศีสิงห์ว่า เป็นดาวทวารบาลดวงหนึ่งของสวรรค์หรือท้องฟ้า ดาวทวารบาลทั้ง 4 ได้แก่ Aldebaran (กลุ่มดาววัวสว่างเป็นที่ 14 ในท้องฟ้า ) Antares (กลุ่มดาวแมงป่องสว่างเป็นอันดับที่ 17 ในท้องฟ้า ) Fomalhaut (กลุ่มดาวปลาภาคใต้สว่างเป็นอันดับที่ 18 ในท้องฟ้า ) และ Regulus (กลุ่มดาวสิงห์โตสว่างเป็นที่ 20 ในท้องฟ้า) ดาวฤกษ์ทั้ง 4 ดวง นี้มีความสว่างใกล้เคียงกันมาก และปรากฏอยู่ 4 ทิศ พอดี







9.กลุ่มดาวหญิงพรหมจารีย์  (Virgo)


กลุ่มดาวในราศีที่ 6 หรือกลุ่มดาวราศีกันย์ คือ กลุ่มดาวหญิงพรหมจารีย์ กลุ่มดาวนี้อยู่ระหว่างกลุ่มดาวสิงห์โตกับกลุ่มดาวคันชั่ง มีดาวฤกษ์ที่สว่าง สุกใสอันดับที่ 16 ในท้องฟ้า ชื่อ สไปกา (Spica) ซึ่งแปลว่ารวงข้าว จากแผนที่ ดาวเก่าแก่ เขาเขียนรูปกล่มดาวนี้เป็นผู้หญิงสาวถือฟ่อนข้าวสาลีอยู่ในมือ

ดาวกลุ่มนี้มีดาวสำคัญ เกี่ยวกับวิชา ดาราศาสตร์อยู่อย่างหนึ่งคือ จุดตัดของ เส้นศูนย์สูตรท้องฟ้า และเส้นอีคลิพดิคจุดที่ 2 ซึ่งเรียกว่า Autumnal Equinox (บางท่านเรียกวันสารทวิษุวัต แปลว่า วันที่ดวงอาทิตย์ ยกเข้าสู่ราศีตุลย์ ) นั้นอยู่ในกลุ่มดาวกลุ่มนี้ วันที่ 23 กันยายนเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลก ฝ่ายเหนือเริ่มวันฤดูใบไม้ร่วง วันนั้นกลางวันและกลางคืนเท่ากัน

ตามยนิยาย ดาวที่เก่าแก่กล่าวว่า เวอร์ดโก (Virgo) หรือกลุ่มดาวราศีกันย์นี้ แทน Astrea บุตรสาวของจอมเทพพฤหัสดี (จูปีเตอร์) กับพระนาง Themis เวอร์โก เป็นเทพธิดาแห่งความยุติธรรม ในสมัยที่เทพธิดาเวอร์โกปกครองโลก พระนางได้รับความเคารพอย่างสูงจากมนุษย์ชาติ เมื่อเวลาผ่านไปถึง ยุคทองบรอนซ์และยุคเหล็ก มนุษย์เรามีความชั่วและความโหดร้ายทารุณ เทพธิดาเวอร์โกไม่พอใจในการกระทของมนุษย์ จึงได้หนีขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า แถบกลุ่มดาว 12 ราศี เป็นกลุ่มดาวราศีที่ 6

ตามยนิยายดาวที่เก่าแก่กล่าวว่า เวอร์ดโก (Virgo) หรือกลุ่มดาวราศีกันย์นี้ แทน Astrea บุตรสาวของจอมเทพพฤหัสดี (จูปีเตอร์) กับพระนาง Themis เวอร์โก เป็นเทพธิดาแห่งความยุติธรรม ในสมัยที่เทพธิดาเวอร์โกปกครองโลก พระนางได้รับความเคารพอย่างสูงจากมนุษย์ชาติ เมื่อเวลาผ่านไปถึง ยุคทองบรอนซ์และยุคเหล็ก มนุษย์เรามีความชั่วและความโหดร้ายทารุณ เทพธิดาเวอร์โกไม่พอใจในการกระทของมนุษย์ จึงได้หนีขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า แถบกลุ่มดาว 12 ราศี เป็นกลุ่มดาวราศีที่ 6 ตามนิยายดาวของอียิปต์ กล่าวว่า เวอร์โก หรือ หญิงพรหมจารีย์นี้ คือ เทพธิดาไอซีส (Isis) ซึ่งมีเรื่องเล่ากันต่อ ๆ มาว่า เทพธิดา Isis ถูกยักษ์ร้านไต้ฝุ่น (Typhoon ) ติดตาม เธอได้ขว้างมัดข้าวสาลีในมีไปยังยักษ์ เมล็ดข้าวสาลีได้ แตกกระจัดกระจายเป็นทางสีขาวสลัว ซึ่งเรียกว่าทางช้างเผือก ดาวฤกษ์ Spica ในกลุ่มดาวนี้ ชาวอียิปต์โบราณเขากราบไหว้บูชา เพราะเขาเชื่อว่าดาวฤกษ์ดวงนี้ เป็นดาวฤกษ์แห่งความไพบูลย์และความเจริญ









10.กล่มดาวคันชั่ง  (Libra)

กลุ่มดาวราศีตุลย์ (ดุลย์) คือ กลุ่มดาวคันชั่ง กลุ่มดาวนี้สังเกตได้ง่ายมีรูปคล้าย ๆ สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน อยู่ทาง ทิศตะวันตกของกลุ่มดาวแมงป่อง ในสมัย 2,000 ปีก่อน นักดาราศาสตร์ถือว่า ดวงอาทิตย์ปรากฏโคจรเข้ามาอยู่ในกลุ่มดาวราศีตุลย์ ในวันที่ 23 กันยายน ซึ่งในวันนี้กลางวันกับกลางคืนเท่ากันพอดี และดวงอาทิตย์ขึ้นที่จุดทิศตะวันออก ตกที่จุดทิศตะวันตก โคจรผ่านกลางท้องฟ้าพอดี กลุ่มดาวนี้จึงแทนความ เสมอภาคแห่งท้องฟ้า ในปัจจุบันนี้ ดวงอาทิตย์จะปรากฏโคจร เข้ามาใน กลุ่มดาวราศีตุลย์ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้เนื่องจากการส่ายของโลก ดังได้ อธิบายไว้แล้ว แต่การเกิดกลางวันกลางคืนเท่ากันก็ยังคงเป็นวันที่ 23 กันยายน ตามเดิม
ชาวฮีบรูสมัยโบราณ และพวกอริยกะในมัธยมประเทศ (ตอนกลางของประเทศ อินเดีย) เรียกกลุ่มดาวราศีตุลย์แทนความเสอมภาคแห่งท้องฟ้าหรือสรรค์

ชาวกรีก รวมกลุ่มดาวคันชั่งกับกลุ่มดาวแมงป่องเข้าด้วยกัน คือ เขาเห็นกลุ่ม ดาวคันชั่งซึ่งมี 4 ดวงนี้เป็นรอยเท่าของแมงป่อง ในเวลาต่อมาชาวกรีกได้เปลี่ยน ความเชื่อถือใหม่ โดยเห็นกลุ่มดาวนี้แทน Mochus ผู้ประดิษฐ์เครื่องชั่งตวงวัด

ชื่อ “ ตุลย์” (Libra ) ของกลุ่มดาวนี้ ใช้ตามอย่างชาวโรมัน ในสมัยยูเลียสซีซาร์ คือชาวโรมันถือว่ากลุ่มดาวราศีตุลย์ เป็นกลุ่มดาวที่แทนคันชั่งของเทพธิดา Astrea (กลุ่มดาวหญิงพรหมจารีย์) ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความยุติธรรมและ เป็นผู้กำหนดชะตาของมนุษย์
กลุ่มดาวคันชั่ง หรือ กลุ่มดาวราศีตุลย์ จะเห็นอยู่ตรงศีรษะเวลา 3 ทุ่ม ในวันที่ 20 มิถุนายน จะเห็นอยู่จนถึงต้นเดือนตุลาคน คือในตอนต้นเดือนตุลาคม พอมืดจะ เห็นกลุ่มดาวนี้เกือบตก ในเดือนมกราคม จะเริ่มเห็นทางขอบฟ้าทิศตะวันออก ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น








11.กลุ่มดาวแมงป่อง  (Scorpius ) 

กลุ่มดาวราศีพิจิก คือ กลุ่มดาวแมงป่อง กลุ่มดาวแมงป่องเป็นกลุ่มกาวใน 12 ราศี กลุ่มเดียวที่มีรูปร่างเหมาะสมเหมือน ชื่อที่สุด มีส่วนหัว ส่วนตัว ส่วนหาง และจงอยของหางเหมือนแมงป่องจริง ๆ กลุ่มดาวแมงป่องเป็นกลุ่มดาวที่สวยงามที่สุด ในบรรดากลุ่มดาว 12 ราศี ดาวฤกษ์ Antares ซึ่งเป็นหัวใจของแมงป่องมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 400 ล้านไมล์ กลุ่มดาวแมงป่อง จะเห็นอยู่ตรงศีรษะเมื่อเวลา 3 ทุ่ม ในวันที่ 20 กรกฎาคม ในต้นเดือนพฤศจิกายน พอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป จะเห็นกลุ่มดาวแมงป่อง ทางขอบฟ้าทิศตะวันตกใกล้จะตกจากขอบฟ้าไป ในตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะเห็นอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก เมื่อเวลาก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น นักเรียนที่ตื่นท่องหนังสือเตรียมสอบไล่ ถ้าดูจะสังเกตเห็นทุกคน กลุ่มดาวแมงป่อง เป็นกลุ่มดาวที่มนุษย์รู้จักมาแต่ดึกดำบรรพ์ การใช้ชื่อว่ากลุ่มดาว สคอร์ – ปี – อุส (Scorpius) เพราะในสมัยโบราณ เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ ปรากฏมาอยู่ในกลุ่มดาวนี้ ปรากฏว่าในประเทศอิยิปต์ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ เกิดขึ้นเลย

เทพนิยายโบราณกล่าวถึงกลุ่มดาวนี้ว่า มันคือ แมงป่องยักษ์ ผู้สามารถพิชิต นายพรานใหญ่ ออไรออน (Orion) ซึ่งเป็นนายของบรรดาสัตว์บนโลกให้ถึง แก่ความตายได้ โดยแมงป่องตัวนี้ ถูกพระนางจูโน คนขี้อิจฉาใช้ไปต่อยที่ ข้อเท้านายพราน จนถึงแก่ความตาย 






12.กลุ่มดาวคนถือธนู   (Sagittarius) 

กลุ่มดาวราศีธนู คือกลุ่มดาวคนถือธนู กลุ่มดาวกลุ่มนี้อยู่ในแนวทางช้างเผือก กลุ่มดาวคนถือธนูได้ชื่อว่า กลุ่มดาวผู้ฆ่า กลุ่มดาววัวตัวผู้เพราะเมื่อกลุ่มดาวนี้ขึ้น กลุ่มดาววัวจะตก หรือเมื่อ กลุ่มดาวนี้ตก กลุ่มดาววัวจะขึ้น กลุ่มดาวคนถือธนูนี้มีรูปร่างคล้ายกาน้ำ ขอให้สังเกตดูรูป ซึ่งได้โยงเส้นเชื่อมไว้ ดาวกลุ่มนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของกลุ่มดาวแมงป่อง กลุ่มดาวราศีธนู เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ติดกับกลุ่มดาวแมงป่อง ตามนิยายดาวชาวกรีกกล่าวว่าดาวราศีธนูเป็นกลุ่มดาวแทน ชีรอน (Chiron) ซึ่งมีรูปครึ่งคนครึ่งม้า เป็นบุตรพระเสาร์และพระนาง Philyra ตามนิยายกล่าวว่า Chiron แปลงตัวเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งม้า เพื่อหนีภรรยาขี้หึงของเขา Chiron เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงเด่นมากในสมัยนั้น เขาเป็นทั้งแพทย์ นักดนตรี และ นักการศึกษา เขาเป็นผู้สอนให้รู้ชื่อของหญ้าหรือพืชต่าง ๆ ที่ใช้ทำยา เป็นนักการ ศึกษาที่ทรงคุณวุฒิ มีลูกศิษย์มากมาย แต่ผลที่สุด Chiron ก็ตายเพราะยาพิษ คือถูกศรพิษกรีดผิวหนังถึงแก่ความตาย